Category:

สุขภาพ

กินเจ VS กินเนื้อ กินเจ กินอะไรได้บ้าง ข้อดีข้อเสียของทางเลือกแต่ละชนิด

กินเจ VS กินเนื้อ กินเจ กินอะไรได้บ้าง ข้อดีข้อเสียของทางเลือกแต่ละชนิด กินเจ กินคลีน สายสุขภาพ อยากสุขภาพดีไม่ต้องรอถึงช่วงกินเจ แต่การกินเจนั้นมีประโยชน์อย่างไร ต้องต้องกินอย่างไร หาก เว็บหวยสด นำมาเปรียบเทียบกันนั้น กินแบบไหนถึงจะดี วันนี้ ล็อตโต้สด จะชวนมาหาข้อดี ข้อเสีย เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้เพื่อน ๆ ได้ลองดูกัน

กินเจ VS กินเนื้อ กินเจ กินอะไรได้บ้าง ข้อดีข้อเสียของทางเลือกแต่ละชนิด

กินเจ VS กินเนื้อ กินเจ กินอะไรได้บ้าง ข้อดีข้อเสียของทางเลือกแต่ละชนิด
กินเจเพื่ออะไร

การกินเจนั้นจริง ๆ แล้วเป็นวัฒนธรรม หรือความเชื่อที่มีสืบต่อกันมาบ้างก็ทำเพื่อสร้างบุญเพราะงวดเว้นเนื้อสัตว์ เหมือนกับการรักษาศีล 8 ที่รวมการงดทานเนื้อสัตว์ไปด้วย บ้างก็กินเพราะต้องการดีท็อกซ์สารพิษ ปรับสมดุลร่างกาย วันนี้เรามาดูกันว่าความแตกต่างระหว่างการกินเนื้อ กับ การกินเจมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร

จากงานวิจัยนั้นพบว่ามีค่านัยสำคัญอย่างเห็นได้ชัดหากเริ่มงดกินเนื้อสัตว์ แล้วหันมากินผัก และผลไม้แทน ซ฿่งการเปลี่ยนแปลงนั้นจะแบ่งเป็นตามกลุ่มช่วงระยะเวลาการทานผัก ผลไม้คือ

ทานผัก และผลไม้ 7 วัน : จะช่วยลดการสะสมของไขมัน และลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน

ทานผัก และผลไม้ 2 สัปดาห์ : ลดความเสี่ยงของโรคซึมเศร้า

ทานผัก และผลไม้ 6 เดือน : ช่วยลดน้ำหนักได้ถึง 6 กิโลกรัม ลดน้ำตาลในเลือด และไขมันเลวไปถึง 21% เลยทีเดียว

ทานผัก และผลไม้ 5 ปี : ระดับคอเลสเตอรอลลดลง อาการของหลอดเลือดหัวใจตีบดีขึ้น

ทานผัก และผลไม้ 10 ปีขึ้นไป : ลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจมากถึง 40% และลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งถึง 28%

กินเจ VS กินเนื้อ กินเจ กินอะไรได้บ้าง ข้อดีข้อเสียของทางเลือกแต่ละชนิด
กินเนื้อสัตว์ VS กินเจ

การได้รับสารอาหาร กินเจ VS กินเนื้อ

สารอาหาร
โปรตีน
ไฟเบอร์
วิตามิน B12 และ วิตามิน D
แร่ธาตุ แคลเซียม
กินเจ
/
/
x
x
กินเนื้อ
/
x
/
/
กินเจ VS กินเนื้อ กินเจ กินอะไรได้บ้าง ข้อดีข้อเสียของทางเลือกแต่ละชนิด
อาหารของคนกินเจ

เติมสารอาหารที่ขาดให้คนกินเจ

สารอาหารที่ขาด
กรดอะมิโนจำเป็น
วิตามิน B12
โอเมก้า 3
แร่ธาตุ แคลเซียม
แหล่งอาหารทดแทน
นมถั่วเหลือง คีนัว
อาหารเสริม วิตามิน B12
เม็ดบัว เมล็ดเซีย เมล็ดแฟล็กซ์
บรอคโคลี ไรซ์เบอร์รี งา ปวยเล้ง ถั่วเหลือง

กินเจ VS กินเนื้อ กินเจ กินอะไรได้บ้าง ข้อดีข้อเสียของทางเลือกแต่ละชนิด หากเลือกกินเจกันแล้ว เพื่อน ๆ ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับคุณค่าของอาหารและโภชนาการด้วยนะคะ การกินเจนั้นมักจะขาดสารอาหารบางอย่างไป แต่ก็สามารถเลือกอาหารทดแทนกันได้ เมื่อครบกำหนดแล้วก็หันมาเลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกทาน ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม ก็สุขภาพดีได้โดยไม่ต้องเคร่งมากเลยละค่ะ

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
อาหารบำรุงสมอง กลางวันบูสต์พลังสมอง กลางคืนให้พักผ่อนแบบเป็นเวลา

อาหารบำรุงสมอง กลางวันบูสต์พลังสมอง กลางคืนให้พักผ่อนแบบเป็นเวลา สารอาหารที่บำรุงสมอง มีหลากหลายประเภท หาได้จากธรรมชาติ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีผลข้างเคียง แต่วิธีที่ หวยสด เราเลือกใช้กันนั้นมักจะไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ และอาจส่งผลต่อสุขภาพได้ วันนี้ ล็อตโต้สด เราจะมาแนะแนวทางบอกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้เพื่อน ๆ ได้ไปบูสต์สมองกัน เพื่อให้สมองทำงานเป็นเวลานั่นเอง

อาหารบำรุงสมอง เสริมพลังสมองให้ตื่นกลางวัน หลับกลางคืน

อาหารบำรุงสมอง กลางวันบูสต์พลังสมอง กลางคืนให้พักผ่อนแบบเป็นเวลา
อาหารสมอง

อาหารบูสต์สมอง ทำอย่างไรดีให้สมองตื่น เคยไหมที่บ่อยครั้งต้องทำงาน แต่สมองล้า คิดอะไรไม่ออก พร้อมจะหลับอยู่ตลอดเวลา ส่วนตอนนอน สมองก็ดันมาแล่นสุด ๆ จะหลับสมองก็คิดนู่น คิดนี่ ยิ่งทำให้ร่างกายเรานอนไม่เป็นเวลา ตื่นมาก็ไม่สดชื่น นั่นทำให้เรายิ่งต้องโดฟคาเฟอีนอยู่ทุกวัน และต้องเพิ่มปริมาณให้มากขึ้นยิ่งไปอีก นั่นทำให้ร่างกายเรามีผลข้างเคียงอีกด้วย วันนี้เราเลยจะมาแนะนำสารอาหารที่ร่างกายต้องได้รับ เพื่อบูสต์สมอง และให้สมองพักผ่อนให้เป็นเวลากันหน่อย

อาหารบำรุงสมอง กลางวันบูสต์พลังสมอง กลางคืนให้พักผ่อนแบบเป็นเวลา
สมองล้าทำยังไง

ปรับพฤติกรรม

เวลากลางวัน ง่วง หัวตื้อ สมองไม่แล่น กลางคืนก็นอนไม่หลับ สมองคิดเรื่องนู้น เรื่องนี้ไม่หยุด ใครเป็นแบบนี้บ้าง ลองสังเกตุพฤติกรรมกันดู แล้วถ้าสมองอยากพักตอนที่เรากำลังทำงานแบบนี้ เราจะจัดการตัวเองอย่างไรดี การปรับพฤติกรรมการกิน การเคลื่อนไหวร่างกายเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยได้เช่นกันนะ ยกตัวอย่างเช่น

ตื่นเช้ามา ให้ลองออกกำลังกาย หรือยืดเหยียดให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวเพื่อกระตุ้นร่างกายและสมอง

ส่วนตอนกลางคืน สร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลาย ลดความกังวล โดยการฟังเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง หรือฟังนิทาน ASMR ก่อนนอนก็ช่วยได้ดีทีเดียว

อาหารบำรุงสมอง กลางวันบูสต์พลังสมอง กลางคืนให้พักผ่อนแบบเป็นเวลา
สมองล้า กินอะไรดี

ปรับการกิน

ช่วงกลางวัน

ช่วงเวลากลางวันคือสิ่งทดสอบจิตใจอีกขั้นช่วงนี้แหละที่ร่างกาย และสมองของเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนสั่งการไม่ได้ดั่งใจ อยากทำงาน แต่ดันหัวตื้อ ง่วงนอนขึ้นมาซะอย่างนั้น โดยวิธีปกติแล้ว เราก็มักจะใช้ตัวช่วยอย่างการดื่ม ชา กาแฟ หรือทานของหวาน เพื่อกระตุ้นสมอง ซึ่งวิธีนี้ก็อาจทำให้เราต้องเพื่มระดับของคาเฟอีน หรือของหวานหวานขึ้นไปเรื่อย ๆ จนเสี่ยงต่อสุขภาพได้

ทางเลือกที่ไม่มีผลข้างเคียง คือให้เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมอง ดังต่อไปนี้

วิตามิน B12 : มีส่วนช่วยในการสร้างสารเคมีในสมอง

โอเมก้า 3 : ช่วยให้สมองทำงานได้ดี

แอนโทไซยานิน : ช่วยเพิ่มความจำระยะสั้น

อาหารบำรุงสมอง กลางวันบูสต์พลังสมอง กลางคืนให้พักผ่อนแบบเป็นเวลา
เมลาโทนิน ช่วยอะไร

ช่วงกลางคืน

ในตอนกลางคืนนั้นเราจะเน้นการผ่อนคลายให้สมองได้พักผ่อน ซึ่งแน่นอนเจ้ากรรม ตอนกลางวันง่วงนักง่วงหนา แต่ตอนกลางคืนตาสว่างซะอย่างนั้น ซึ่งวิธีของคนทั่วไปก็มักจะคิดว่ากินอิ่ม ๆ สิหนังท้องตึง หนังตาจะได้หย่อน ซึ่งวิธีนี้ทำให้เสี่ยงต่อโรคอ้วน หรือกรดไหลย้อน และอีกวิธีคือคือกินยานอนหลับ นั่นยิ่งอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายเลยทีเดียว

ทางเลือกที่ไม่มีผลข้างเคียง อย่างการเลือกทานสารอาหารที่มีประโยชน์นั้นมีดังนี้

กาบา : ช่วยให้ผ่อนคลาย

เมลาโทนิน : ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น แต่ต้องอยู่ในที่มืด ๆ ด้วยนะ การปรับแสงสว่างตอนนอนก็เป็นอีกปัจจัยเช่นกัน

ทริปโตแฟน : สารตัวนี้เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจะนำไปสร้างเมลาโทนิน

อาหารบำรุงสมอง กลางวันบูสต์พลังสมอง กลางคืนให้พักผ่อนแบบเป็นเวลา

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
อาหารอยู่ท้อง อาหารง่าย ๆ หาทานได้ตามร้านสะดวกซื้อ อิ่มท้อง ลดพุง

อาหารอยู่ท้อง อาหารง่าย ๆ หาทานได้ตามร้านสะดวกซื้อ อิ่มท้อง ลดพุง ช่วงนี้สุขภาพต้องเป็นที่หนึ่ง เข้าสู่ยุคใหม่แล้ว คอ หวยสด หลาย ๆ คนก็หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องอาหาร เลือกแล้วเลือกอีก แต่ทำยังไงดี เพราะหิวระหว่างวันตลอด หรือไม่ก็กินข้าวเพิ่งเสร็จไปไม่นาน ก็รู้สึกหิวแล้ว วันนี้ huaysod เราเลยจะมาแนะนำแนวทางของอาหารที่กินแล้วอยู่ท้อง อิ่มนาน วันนี้ลองมาทำความรู้จักกัน

อาหารอยู่ท้อง อาหารง่าย ๆ หาได้ตามร้านสะดวกซื้อ เพื่อสุขภาพ

อาหารอยู่ท้อง อาหารง่าย ๆ หาทานได้ตามร้านสะดวกซื้อ อิ่มท้อง ลดพุง
หมวดผัก

หมวดผัก

ผักมีด้วยกันหลายชนิด แต่ละสี แต่ละชนิดก็มีประโยชน์แตกต่างกัน ซึ่งประโยชน์หลัก ๆ แล้วนั่นก็คือมีวิตามินสูง และเป็นแหล่งของไฟเบอร์ ทำให้อยู่อยู่ท้องและอิ่มนานนั่นเอง ยกตัวอย่างผักที่อิ่มท้อง ในปริมาณ 100 กรัม

แครอท

แครอท มีวิตามิน A สูง ช่วยบำรุงสายตา

แคลอรี่ : 41 kcal

ไฟเบอร์ : 3 กรัม

ผักปวยเล้ง

ผักปวยเล้ง มีวิตามิน K สูง ช่วยให้กระดูกแข็งแรง

แคลอรี่ : 23 kcal

ไฟเบอร์ : 2 กรัม

บรอคโคลี

บรอคโคลี ช่วยบำรุงผิว อิ่มท้อง

แคลอรี่ : 34 kcal

ไฟเบอร์ : 3 กรัม

อาหารอยู่ท้อง อาหารง่าย ๆ หาทานได้ตามร้านสะดวกซื้อ อิ่มท้อง ลดพุง
หมวดผลไม้

หมวดผลไม้

สตรอว์เบอร์รี

สตรอว์เบอร์รี มีน้ำตาลน้อย อุดมไปด้วยวิตามิน

แคลอรี่ : 32 kcal

ไฟเบอร์ : 2 กรัม

ชมพู่

ชมพู่ มีวิตามิน C สูง แคลอรี่ต่ำ

แคลอรี่ : 25 kcal

ไฟเบอร์ : 1 กรัม

แอปเปิ้ล

แอปเปิ้ล มีน้ำและไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบ ช่วยให้อิ่มนาน

แคลอรี่ : 52 kcal

ไฟเบอร์ : 2 กรัม

อาหารอยู่ท้อง อาหารง่าย ๆ หาทานได้ตามร้านสะดวกซื้อ อิ่มท้อง ลดพุง
หมวดถั่ว

หมวดถั่ว

ถั่วเขียว

ถั่วเขียว มีไฟเบอร์สูง ซึ่งจะช่วยป้องการอาการท้องผูก

พลังงาน : 105 kcal

ไฟเบอร์ : 8 กรัม

ถั่วเหลือง

ถั่วเหลือง เป็นแหล่งโปรตีนในพืชที่สำคัญ มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก

พลังงาน : 173 kcal

ไฟเบอร์ : 6 กรัม

ถั่วแดง

ถั่วแดง ช่วยบำรุงผิว มีสารต้านอนุมูลอิสระ มักจะเห็นได้บ่อยในพวกสลัดมีประโยชน์ต่อร่างกายมากเลยทีเดียว

พลังงาน : 127 kcal

ไฟเบอร์ : 6 กรัม

อาหารอยู่ท้อง อาหารง่าย ๆ หาทานได้ตามร้านสะดวกซื้อ อิ่มท้อง ลดพุง
หมวดเนื้อสัตว์

หมวดเนื้อสัตว์

อกไก่

อกไก่ ไขมันต่ำ และมีโปรตีนสูง

พลังงาน : 165 kcal

โปรตีน : 31 กรัม

ปลาทูน่า

ปลาทูน่า ช่วยบำรุงสมอง และอุดมไปด้วยไขมันดี

พลังงาน : 184 kcal

โปรตีน : 30 กรัม

ปลาแซลมอน

ปลาแซลมอน อุดมไปด้วยไขมันดี และมีสารต้านอนุมูลอิสระ

พลังงาน : 206 kcal

โปรตีน : 22 กรัม

อาหารอยู่ท้อง อาหารง่าย ๆ หาทานได้ตามร้านสะดวกซื้อ อิ่มท้อง ลดพุง
หมวดธัญพืช

หมวดธัญพืช

ข้าวบาร์เลย์

ข้าวบาร์เลย์ ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง มีคุณประโยชน์ต่าง ๆ ช่วยลดความดันเลือด

พลังงาน : 123 kcal

ไฟเบอร์ : 4 กรัม

เมล็ดเฟล็กซ์

เมล็ดเฟล็กซ์ ช่วยควบคุมน้ำตาล และไขมัน แต่มีพลังงานที่สูง ให้กินทีละน้อยนะ

พลังงาน : 534 kcal

ไฟเบอร์ : 27 กรัม

คีนัว

คีนัว มีโปรตีน และช่วยลดความอ่อนล้า

พลังงาน : 120 kcal

ไฟเบอร์ : 3 กรัม

อาหารอยู่ท้อง อาหารง่าย ๆ หาทานได้ตามร้านสะดวกซื้อ อิ่มท้อง ลดพุง

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
อาหารเด็ดของแต่ละชาติ ให้ประโยชน์อะไรกับร่างกายบ้าง

อาหารเด็ดของแต่ละชาติ ให้ประโยชน์อะไรกับร่างกายบ้าง แต่ละประเทศนิมยมทานอาหารชนิดใดบ้าง มีอาหารอะไรเป็นจุดเด่น และอาหารแต่ละชนิดมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากน้อยแค่ไหน วันนี้ lottosod จะชวนมาลองให้ดูตามกันไปเป็นพิธี ถือเป็นเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อยากให้ lottosod ทุกคนใส่ใจ เรียนรู้ในเรื่องของอาหารมากขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีนั่นเอง

อาหารเด็ดของแต่ละชาติ มีประโยชน์ในด้านใดบ้าง

อาหารเด็ดของแต่ละชาติ ให้ประโยชน์อะไรกับร่างกายบ้าง
อาหารหลักแต่ละประเทศ

อาหารยอดนิยมของแต่ละชาติ แต่ละประเทศ มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง และอาหารแต่ละจานมีประโยชน์อย่างไร มีจุดเด่นอย่างไรกันบ้าง ไปเยือนถิ่นนั้น ๆ ทั้งทีต้องสั่งทานกันบ้างแหละ ซึ่งแน่นอนว่าอาหารเด่น ๆ ของต่างประเทศนั้น คนไทยเราก็ชอบกินกันอยู่หลายอย่างเลยทีเดียว วันนี้ลองมาดูกันว่าอาหารแต่ละชนิดนั้นมีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจ รสชาติแบบไหน และมีประโยชน์กับร่างกายอย่างไรบ้าง

อาหารไทย : ส้มดำ

ส้มตำ เรียกได้ว่าเป็นอาหารรสจัดจ้านสุด ๆ ในประเทศไทยที่ถือว่าเป็นอาหารเฮลท์ตี้อีกรูปแบบหนึ่ง ที่ได้วิตามินจากผลไม้สด ๆ จากทั้งมะละกอ มะเขือเทศ มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว และยังได้ไขมันดีจากถั่วลิสงอีกด้วย แต่ข้อควรระวังคือโซเดียมสูงนั่นเอง

อาหารจีนฮ่องกง ไต้หวัน : ข้าวมันไก่

ข้าวมันไก่ อาหารหลัก ๆ ที่ชาวไทยก็นิยมทานกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ฮ่องกง และแถบไต้หวันนั่นเอง ซึ่งข้าวมันไก่ถือเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่อร่อย และละมุนมาก ๆ เลยทีเดียว และมีข้าวที่เป็นพลังงานดูดซึมเร็ว แต่ก็มีไขมันสูงด้วย โดยมีไขมันติดมาเยอะเลยเหมือนกันทั้งจากหนังไก่ และจากข้าวมัน ที่ใช้น้ำต้มไก่มาหุงข้าว

อาหารเด็ดของแต่ละชาติ ให้ประโยชน์อะไรกับร่างกายบ้าง
อาหารต่างประเทศมีอะไรบ้าง

อารหารอเมริกัน : แฮมเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์

แฮมเบอร์เกอร์ และเฟรนช์ฟรายส์ เรียกได้ว่าเป็นอาหารจาด่วนของชาวอเมริกันเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะแป้ง เนื้อสัตว์ ผัก และชีสแท้ ๆ นั่นทำให้เป็นแหล่งอาการชั้นเยี่ยมที่ได้สารอาหารครบกันเลยทีเดียว โดยสารอาหารที่เราจะได้นั้นก็มีทั้งคาร์โบไฮเดรต จากขนมปัง และเฟรนช์ฟรายส์ ซึ่งดูดซึมได้เร็ว แต่ก็มีไขมันที่สูงอยู่พอควรเลย นอกจากนั้นยังได้แบคทีเรียดีจากผักดองอีกด้วยนะ

อาหารอิตาลี : พิซซ่า

พิซซ่า แหล่งอาหารที่ให้พลังงานสูง ที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย และยังอุดมไปด้วยแคลเซียมสูงจากตัวชีสอีกด้วย ถือเป็นอาหารยอดนิยมของทั้งประเทศต้นตำรับ และประเทศไทยเลยใครที่เบื่อข้าว เบื่อความจำเจ พิซซ่าก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่หลายคนต้องการ

อาหารเด็ดของแต่ละชาติ ให้ประโยชน์อะไรกับร่างกายบ้าง
พิซซ่า อาหารอิตาลี

อาหารเมดิเตอร์เรเนียน : สลัดผักและธัญพืช ราดน้ำมันมะกอก

อาหารของชาวเมดิเตอร์เรเนียน เรียกได้ว่าเป็นอาหารซุปเปอร์คลีน ที่หลายชาติต้องยอมยกอันดับให้ แน่นอนว่าจัดเต็มทั้งเรื่องของวิตามิน และเกลือแร่จากผัก และผลไม้สด ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระจากพื้ชนานาชนิด รวมทั้งมีไฟเบอร์ กากใยจากผักผลไม้ และธัญพืชอีกด้วย ยิ่งน้ำมันมะกอกเรียกได้ว่าเป็นไขมันดี ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

อาหารเวียดนาม : แหนมเนือง

แหนมเนือง อาหารที่มีต้นตำรับจากประเทศเวียดนามที่ครบรส ถูกใจสายเฮลท์ตี้ ถูกปากชาวเอเชียสุด ๆ ไม่ว่าจะไฟเบอร์ และสารอาหารที่ครบถ้วนในมื้อเดียว อัดแน่นไปด้วยวิตามิน และเกลือแร่ ทั้งยังมีไฟเบอร์สูง จากผักสด ๆ พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังมีโปรตีนจากเนื้อสัตว์อีกด้วย

อาหารเด็ดของแต่ละชาติ ให้ประโยชน์อะไรกับร่างกายบ้าง
บิบิมบับ และกิมจิ

อาหารเกาหลี : บิบิมบับ และกิมจิ

บิบิมบับ และกิมจิ หรือข้าวโปะด้วยผักหลากสี และเนื้อสัตว์ ที่มักนิยมทานคู่กันกับกิมจิ เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่ได้สารอาหารครบถ้วนอีกชนิดหนึ่งเลย ไม่ว่าจะโปรตีน คาร์โบไฮเดรต สารต้านอนุมูลอิสระ และยังได้แบคทีเรียดีจากกิมจิด้วย เรียกได้ว่าให้ประโยชน์กับร่างกายเต็ม ๆ และยังช่วยให้ขับถ่ายปกติ ท้องไม่ผูกจากแบคทีเรียดีอีกด้วยนะ

อาหารญี่ปุ่น : ซูชิ

ซูชิ แน่นอนอยู่แล้วนึกถึงญี่ปุ่น ซูชิมักจะเป็นอันดับแรกเสมอ ซึ่งไม่ใช่แค่ได้คาร์โบไฮเดรตเพียงเท่านั้น เพราะยังมีโปรตีนอีกหลากหลายชนิดที่เรียกได้ว่าสดใหม่ พร้อมทั้งยังมีโอเมก้า 3 ไขมันดี DHA และ EPA จากปลาทะเลอีกด้วย

*EPA ช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ลดภาวะหลอดเลือดอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุของโรค เช่น ความดันโลหิตสูง หรือ โรคหัวใจ นั่นเอง

*DHA กรดไขมันจำเป็นในตระกูลโอเมก้า 3 ดีต่อเซลล์ประสาท และเซลล์สมอง

อาหารเด็ดของแต่ละชาติ ให้ประโยชน์อะไรกับร่างกายบ้าง

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
น้ำตาลแลคโตสในนม อาการแพ้แลคโตส และวิธีแก้สำหรับคนชอบดื่มนม

น้ำตาลแลคโตสในนม อาการแพ้แลคโตส และวิธีแก้สำหรับคนชอบดื่มนม ทำไมดื่มนมแล้วท้องเสีย ใครมีอาการแบบนี้บ้าง วันนี้ หวยสด ชวนมาสังเกตุพฤติกรรม และอาการของร่างกายเมื่อดื่มนม บางคนกินนมแล้วรู้สึกปวดท้อง บางคนดื่มแล้วท้องเสีย รู้ไหมว่าอาการแบบนี้คืออาการของคนแพ้น้ำตาลแลคโตสนั่นเอง ซึ่งก็มีสาเกตุมาจากหลายสาเหตุ และแน่นอน huaysod เรามีทางแก้มาเสนอแล้ว

น้ำตาลแลคโตสในนม อาการแพ้แลคโตส แต่อยากดื่มนมต้องทำอย่างไร

น้ำตาลแลคโตสในนม อาการแพ้แลคโตส และวิธีแก้สำหรับคนชอบดื่มนม
ดื่มนมอุ่นก่อนนอน

นม

นม ถือเป็นหมวดเครื่องดื่มที่มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย อุดมไปด้วยโปรตีน และแคลเซียม ซึ่งช่วยให้กระดูกแข็งแรง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ซึ่งปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าคนไทยเราไม่ค่อยดื่มนมกันซักเท่าไหร่ พออายุมากขึ้น เริ่มอยากดูแลสุขภาพจึงเริ่มหันกลับมาดื่มนมกันอีกครั้ง ซึ่งอาจทำให้ร่างกายไม่ค่อยได้ผลิตน้ำย่อยแลคโตส และอาจทำให้ท้องเสียได้ เพราะห่างหายจากการดื่มนมไปนานนั่นเอง

น้ำตาลแลคโตส คืออะไร

น้ำตาลแลคโตส ก็คือน้ำตาลชนิดหนึ่งที่จะพบเฉพาะในนม เมื่อเราดื่มเข้าไป น้ำตาลชนิดนี้ก็ต้องการ น้ำย่อยแลคโตส มาย่อยน้ำตาลชนิดนี้ให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ต่อนั่นเอง

น้ำตาลแลคโตสในนม อาการแพ้แลคโตส และวิธีแก้สำหรับคนชอบดื่มนม
น้ำตาลแลคโตส โทษ

กระบวนการย่อย น้ำตาลแลคโตส

โดย กระบวนการโดยปกติ ของร่างกายนั้น เมื่อเราดื่มนมเข้าสู่ร่างกายแล้ว – น้ำตาลแลคโตสที่อยู่ในนมก็จะเข้ามาด้วย – ซึ่งร่างกายจะผลิตน้ำย่อยมาย่อยแลคโตส – น้ำตาลจะถูกดูดซึมไปใช้เป็นพลังงาน

ทำไมดื่มนมแล้วท้องเสีย

เกิดอะไรขึ้นกับคนที่ดื่มนมแล้วท้องเสียล่ะ อาการแบบนี้เรียกว่า อาการแพ้น้ำตาลแลคโตส โดยกระบวนการทำงานของร่างกายนั้น เมื่อดื่มนมเข้าไป – น้ำตาลแลคโตสเข้าสู่น่างกาย – ร่างกายอาจผลิตน้ำย่อยแลคโตสได้น้อย หรือ ไม่ผลิตเลย – ร่างกายจึงดูดซึมน้ำตาลชนิดนี้ไปใช้เป็นพลังงานต่อไม่ได้ – แลคโตสจึงกลายเป็นอาหารของแบคทีเรีย – ทำให้เกิดอาการท้องเสียนั่นเอง

น้ำตาลแลคโตสในนม อาการแพ้แลคโตส และวิธีแก้สำหรับคนชอบดื่มนม
น้ำตาลแลคโตสที่พบได้เฉพาะในนม

สาเหตุที่แพ้น้ำตาลแลคโตส

สาเหตุที่ 1 ร่างกายไม่สามารถผลิตน้ำย่อยแลคโตสได้ตั้งแต่เกิด ดังนั้นวิธีแก้ของคนที่ชอบดื่มนม แต่ แพ้น้ำตาลแลคโตสตั้งแต่เกิด นั้น ให้เลือกดื่มนมที่กำกับไว้ว่า แลคโตสฟรี

สาเหตุที่ 2 ไม่ได้ดื่มนมนาน ร่างกายจึงผลิตน้ำย่อยแลคโตสน้อยลง ซึ่งโดยปกติแล้วจะเห็นได้ว่าคนไทยส่วนใหญ่จะได้ดื่มนมเฉพาะตอนเด็ก ๆ เท่านั้น และจะหันกลับมาดื่มนมเมื่อเริ่มรู้สึกอยากดูแลสุขภาพ หรือตอนมีอายุแล้ว ร่างกายจึงไม่ค่อยได้สร้างน้ำย่อยแลคโตสนั่นเอง วิธีแก้คือ ให้เลือกดื่มนมที่เขียนกำกับข้างขวดไว้ว่า แลคโตสฟรี หรือหากจะดื่มนมแบบปกติ ก็ให้ค่อย ๆ เริ่มดื่มนมเพิ่มขึ้นทีละนิด เพื่อให้ร่างกายคุ้ยชิน

น้ำตาลแลคโตสในนม อาการแพ้แลคโตส และวิธีแก้สำหรับคนชอบดื่มนม
วิธีแก้อาการแพ้น้ำตาลแลคโตสในนม

นมธรรมดา VS นมที่ไม่มีน้ำตาลแลคโตส (แลคโตสฟรี)

นมธรรมดา อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่านมทุกชนิดจะมีน้ำตาลธรรมชาติ หรือที่เรียกว่า น้ำตาลแลคโตสอยู่ในนมอยู่แล้ว ซึ่งน้ำตาลชนิดนี้ร่างกายต้องไปย่อยเอง

นมที่ไม่มีน้ำตาลแลคโตส หรือที่เรียกว่า นมแลคโตสฟรี นมชนิดนี้จะถูกผ่านกระบวนการที่ย่อยน้ำตาลให้แล้ว จึงเหลือเป็นกลูโคส และ กาแลคโตส (อย่างที่เคยได้กล่าวไปในบทความก่อนหน้านี้) ซึ่งเมื่อดื่มนมเข้าไปร่างกายก็สามารถดูดซึมได้เลย แต่นมชนิดนี้จะมีรสชาติหวานกว่านมปกติ แม้จะได้ได้เติมน้ำตาลเพิ่มเข้าไป

น้ำตาลแลคโตสในนม อาการแพ้แลคโตส และวิธีแก้สำหรับคนชอบดื่มนม

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail

น้ำตาลในนม น้ำตาลแลคโตส อ้วนไหม นมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร ดื่มนมก่อนนอนอ้วนไหม น้ำตาลในนมมีกี่ประเภท ทำไมนมที่เขียนข้างขวดว่าไม่ใส่น้ำตาล ในฉลากยังมีปริมาณน้ำตาลอยู่ วันนี้ เว็บหวยสด เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับนมแต่ละชนิดให้มากขึ้น ติดหวานแต่อยากลดหวานเพื่อสุขภาพ ควรดื่มนมแบบไหนดี วันนี้ ล็อตโต้สด เรามีเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยมาให้เพื่อน ๆ ได้ลองทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น

น้ำตาลแลคโตส อ้วนไหม นมแต่ละชนิดมีน้ำตาลอะไรบ้าง

น้ำตาลในนม น้ำตาลแลคโตส อ้วนไหม นมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร
น้ำตาลแลคโตสอ้วนไหม

น้ำตาลในนม

หลาย ๆ คนหันมาดูแล ใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น สายคลีนหลาย ๆ คนก็หันมาทานธัญพืช ซีเรียลควบคู่กับโยเกิร์ตบ้าง นมบ้าง แต่เมื่อลองเข้าไปเลือกซื้อนมที่บอกว่าไม่เติมน้ำตาล แต่พอพลิกมาดูที่ฉลากกับงงกว่าเดิมว่าอ้าว! มีปริมาณน้ำตาลอยู่ในนี้ด้วยซะอย่างนั้น วันนี้เราเลยจะพามาทำความเข้าใจของน้ำตาลในนมแต่ละชนิด ให้ได้รู้กัน รับรองว่าเข้าใจง่ายในบทสรุปเดียว

นมมีน้ำตาลธรรมชาติ

ไม่ว่าจะนมชนิดไหน หรือยี่ห้อไหนก็มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบทุกชนิด แม้แต่นมรสจืด หรือที่ข้างขวดเขียนว่า Zero Sugar Added ก็ตาม นั่นก็เพราะว่าในนมนั้น มีน้ำตาลธรรมชาติที่เรียกว่า ‘น้ำตาลแลคโตส’ นั่นเอง ซึ่งต้องบอกก่อนว่า WHO ไม่จำกัดปริมาณการกินน้ำตาลธรรมชาติแบบนี้นะ

น้ำตาลในนม น้ำตาลแลคโตส อ้วนไหม นมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร
นมจืด หรือ นมจืดไขมันต่ำ

นมจืด หรือ นมจืดไขมันต่ำ

นมจืด หรือ นมจืดไขมันต่ำ แน่นอนว่ามีน้ำตาลธรรมชาติในนมอยู่แล้ว หรือที่เราเรียกน้ำตาลแลคโตสนั่นเอง แต่นมชนิดนี้จะไม่เติมน้ำตาลทรายเข้าไปเพิ่ม ฉะนั้นจะมีแต่แลคโตสเท่านั้น จึงส่งผลดีต่อร่างการ และมีสารอาหารจากนมวัวอย่างครบถ้วน

น้ำตาลในนม น้ำตาลแลคโตส อ้วนไหม นมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร
นมรสหวาน

นมรสหวาน

นมหวาน หรือนมวัวที่เติมน้ำตาลทรายเพิ่ม หรือที่เรียกว่านมปรุงแต่งนั้น ก็ยังมีน้ำตาลแลคโตสอยู่เหมือนกันกับนมจืด เพียงแต่มีการเติมน้ำตาล และปรุงแต่งกลิ่นเพิ่มเข้าไปเพื่อรสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้น

น้ำตาลในนม น้ำตาลแลคโตส อ้วนไหม นมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร
นมแลคโตสฟรี

นมแลคโตสฟรี

นมแลคโตสฟรี คือนมที่ไม่มีน้ำตาลแลคโตส แต่จะมีน้ำตาลธรรมชาติที่ถูกย่อยแล้วอย่าง กลูโคส และ กาแลคโตส อยู่ในนมชนิดนี้แทน ซึ่งทำขึ้นมาเพื่อคนที่ย่อยน้ำตาลแลคโตสไม่ได้นั่นเอง ข้อดีก็คือทำให้ไม่ท้องเสีย นั่นเอง ซึ่งน้ำตาลชนิดนี้ก็เป็นน้ำตาลธรรมชาติเพียว ๆ ไม่เติมน้ำตาลทรายเช่นกันนะ

น้ำตาลในนม น้ำตาลแลคโตส อ้วนไหม นมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร
นมวัวเติมสารให้ความหวาน

นมวัวเติมสารให้ความหวาน

นมวัวเติมสารให้ความหวาน เอาใจสายสุขภาพที่อยากลดน้ำตาล นมชนิดนี้จึงใช้สารให้ความหวานมาเติมแทนน้ำตาลทรายนั่นเอง ซึ่งนมวัวนี้ก็มีน้ำตาลธรรมชาติอย่างแลคโตสอยู่แล้ว เพียงแต่ใส่สารให้ความหวานแทน เพื่อคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงน้ำตาลทราย แต่ยังติดรสหวานอยู่นั่นเองค่ะ

น้ำตาลในนม น้ำตาลแลคโตสอ้วนไหม นมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
ดื่มนมก่อนนอน ความรู้เรื่องนม นมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร

ดื่มนมก่อนนอน ความรู้เรื่องนม นมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร นมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร มีประโยชน์เหมือนกันหรือไม่ และ หวยสด เราควรเลือกดื่มนมแบบไหนดี วันนี้ลองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับนมให้มากขึ้นว่าทำไมบางชนิดถึงเก็บไว้ได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น บางชนิดเพียงเอาออกจากตู้เย็นมาไม่นานก็บูดได้ ขั้นตอนการผลิตนมนั้นแตกต่างกันอย่างไร วันนี้ huaysod เราจะมาทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น

ดื่มนมก่อนนอน ความรู้เรื่องนม นมแต่ละชนิดผ่านกระบวนการผลิตอย่างไรบ้าง

ดื่มนมก่อนนอน ความรู้เรื่องนม นมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร
ดื่มนมอุ่น

ความรู้เรื่องนม

รู้ไหมว่านมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร บางชนิดต้องแช่ตู้เย็น บางชนิดก็ไม่ต้องแช่และก็ไม่ได้ทำให้นมบูดอีกด้วย ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกับนมแต่ละชนิดให้มากขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ คือ นมพาสเจอร์ไรส์ นมสเตอริไรส์ และนม UHT แต่ละแบบผ่านกระบวนการทำอะไรมาบ้าง และคุณประโยชน์แตกต่างกันอย่างไร

กระบวนการของนม

ไม่ว่าจะนมแบบกระป๋อง นมกล่อง หรือนมขวด ต่างกันทำมาจากนมสดเหมือนกัน เพียงแต่ต่างวิธีการคือ มีวิธีการฆ่าเชื้อ และใส่ในบรรจุภัณฑ์กันคนละแบบ นั่นเป็นเหตุผลที่นมแต่ละชนิดมีอายุการเก็บรักษาที่แตกต่างกันนั่นเอง

ดื่มนมก่อนนอน ความรู้เรื่องนม นมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร
ดื่ม นมก่อนนอน

นมพาสเจอร์ไรส์

นมพาสเจอร์ไรส์ มักจะขายกันในบรรจุภัณฑ์แบบขวด เป็นนมที่มีรสชาติใกล้เคียงกับนมโคมากที่สุด และมีสารอาหารมากที่สุด โดยกระบวนการทำนั้นจะนำนมสดมาฆ่าเชื้อด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 63 – 65 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาที หรือจะใช้ที่อุณหภูมิ 72 องศาเซลเซียส ประมาณ 16 นาที และจากนั้นทำให้เย็นลงทันทีด้วยอุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส โดยอายุของนมพาสเจอร์ไรส์นั้นจะเก็บแบบแช่เย็นได้มากสุดไม่เกิน 10 วัน ถ้าเปิดดื่มแล้วต้องดื่มให้หมดภายใน 2 วัน

นมสเตอริไลส์

นมสเตอริไลส์ มักจะขายกันในบรรจุภัณฑ์แบบกระป๋อง รสชาติของนมนั้นจะเปลี่ยนไปค่อนข้างมากเลยทีเดียว และจะเสียวิตามินไปบางส่วนด้วย เพราะกระบวนการทำนมสเตอริไรส์นั้นจะนำนมมาฆ่าเชื้อด้วยอุณหภูมิที่สูงถึง 118 องศาเซลเซ๊ยส เป็นเวลา 12 นาที ซึ่งนั่นทำให้จุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค และจุลินทรีย์ที่ทำให้นมบูดตายทั้งหมด นั่นจึงทำให้นมสเตอริไลซ์มีอายุถึง 1 ปี โดยไม่ต้องแช่เย็นเลย

ดื่มนมก่อนนอน ความรู้เรื่องนม นมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร
ความรู้เรื่องนม

นม UHT

นม UHT มักจะขายกันในบรรจุภัณฑ์แบบกล่อง กระบวนการทำนั้นจะนำนมสดมาฆ่าเชื้อที่ความร้อน 135 – 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2 – 3 วินาที ซึ่งจะมีเป็นการใช้ความร้อนที่สูง ในเวลาอันสั้น เพื่อรักษารสชาติให้ใกล้เคียงนมโคดั้งเดิมที่สุด โดยนมชนิดนี้สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 6 – 9 เดือนโดยไม่ต้องแช่ตู้เย็น

ดื่มนม ก่อนนอน ความรู้เรื่องนม นมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
กินโยเกิร์ตอ้วนไหม โยเกิร์ตแบบไหนดีต่อสุขภาพ

กินโยเกิร์ตอ้วนไหม โยเกิร์ตแบบไหนดีต่อสุขภาพ โยเกิร์ตมีกี่ชนิด แต่ละชนิดมีวิธีการทำอย่างไร และมีประโยชน์กับร่างกายอย่างไร เชื่อว่าเพื่อน ๆ lottosod คงรู้อยู่แล้วว่าโยเกิร์ตนั้นดีต่อสุขภาพ สายสุขภาพมักจะชอบกินโยเกิร์ตเป็นของว่างควบคู่กับพวกธัชพืชต่าง ๆ บ้างก็กินเพื่อให้ขับถ่ายได้ดีขึ้น วันนี้ หวยสด เราจะมาเจาะลึกกันมากกว่าเดิม ว่าแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร

กินโยเกิร์ตอ้วนไหม โยเกิร์ตแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร

กินโยเกิร์ตอ้วนไหม โยเกิร์ตแบบไหนดีต่อสุขภาพ
โยเกิร์ตธรรมดา

โยเกิร์ต

โยเกิร์ตของว่างที่โปรดปรานของใครหลาย ๆ คน ซึ่งเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงรู้กันอยู่แล้วว่าโยเกิร์ตนั้นทำมาจากนม ซึ่งจะเห็นหลาย ๆ ยี่ห้อคิดค้นทำโยเกิร์ตขึ้นมาหลายชนิด หลายรส วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโยเกิร์ตให้มากขึ้น เพราะยังไม่เพื่อน ๆ หลายคนมีความเชื่อผิด ๆ กันอยู่ พร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยดีกว่า

โยเกิร์ตทำมาจากกอะไร

ไม่ว่าจะโยเกิร์ตยี่ห้อไหน หรือโยเกิร์ตชนิดไหนล้วนทำมาจากนมเหมือนกันทั้งสิ้น ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าโยเกิร์ตนั้นมีหลายแบบไม่ว่าจะโยเกิร์ตธรรมดา กรีกโยเกิร์ต หรือแม้แต่โยเกิร์ตแบบพร้อมดื่ม ก็ทำมาจากนมทั้งสิ้น เพียงแต่ผ่านกระบวนการทำที่แตกต่างกัน ซึ่งโยเกิร์ตไม่ได้ทำมาจากนใบูดเหมือนที่หลาย ๆ คนคิดนะ

กินโยเกิร์ตอ้วนไหม โยเกิร์ตแบบไหนดีต่อสุขภาพ
กรีกโยเกิร์ต

ขั้นตอนการทำโยเกิร์ต

การทำโยเกิร์ตนั้นมีวิธีการเหมือนกันทุกชนิด เพียงแต่โยเกิร์ตแต่ละชนิดนั้น จะมีอัตราส่วนแต่ละอย่างแตกต่างกัน ซึ่งวิธีการหลัก ๆ แล้วมีดังนี้

  • นำนมสดมาผ่านกระบวนการทำความร้อน เพื่อฆ่าพวกแบคทีเรียร้าย
  • จากนั้นเติมแบคทีเรียดีเพิ่มเข้าไป
  • ปล่อยให้แบคทีเรียดีกินนม และเจริญเติบโตในนมนั้น
  • แบคทีเรียดีจะเปลี่ยนนมให้กลายเป็นโยเกิร์ต คือนมจะข้นขึ้น และมีรสเปรี้ยวนั่นเอง

โยเกิร์ตมีกี่ประเภท

โยเกิร์ตแบบธรรมดา

ทำมาจากนม + แบคทีเรียดี

กรีกโยเกิร์ต

ทำจากนม + แบคทีเรียดี + เอานมออกเพื่อทำให้เข้มข้นขึ้น

โยเกิร์ตพร้อมดื่ม

ทำจากนม + แบคทีเรียดี + เติมน้ำเพื่อทำให้เหลวขึ้น

กินโยเกิร์ตอ้วนไหม โยเกิร์ตแบบไหนดีต่อสุขภาพ
โยเกิร์ตพร้อมดื่ม

เกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย

*กรีกโยเกิร์ต

มีวิธีการทำโดยนำโยเกิร์ตมาผ่านกระบวนการเอาน้ำออก เนื้อโยเกิร์ตที่ได้จึงมีความหนืดเข้มข้นขึ้น และมีสารอาหารมากกว่าโยเกิร์ตแบบอื่น คือมีน้ำตาลน้อยลง เพราะถูกดึงออกไปพร้อมน้ำ แต่จะมีรสชาติเปรี้ยวขึ้น นอกจากนั้นยังทำให้มีโปรตีนเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า โดยเป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายอีกด้วย

กินโยเกิร์ต อ้วนไหม โยเกิร์ตแบบไหนดีต่อสุขภาพ สำหรับกรีกโยเกิร์ตนั้น หลายคนอาจจะรู้สึกทานยากไปหน่อย ก็สามารถกินโยเกิร์ตแบบอื่นได้ ซึ่งมีประโยชน์เช่นกัน แต่ระวังเรื่องน้ำตาลกันหน่อยนะ สมัยนี้มีโยเกิร์ตหลายสูตร หลายชนิดให้เลือกทานกันเลย ชอบแบบไหนก็ลองเลือกกินกัน ส่วนใครอยากกินแบบกรีกโยเกิร์ตแต่รู้สึกเปรี้ยวไปหน่อย ก็สามารถบีบน้ำผึ้งเพิ่มเข้าไปหน่อยก็ได้ รับรองว่าปลื้ม

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
เลือกใช้น้ำมันทำอาหาร น้ำมันชนิดไหนเหมาะกับอาหารประเภทใดบ้าง

เลือกใช้น้ำมันทำอาหาร น้ำมันชนิดไหนเหมาะกับอาหารประเภทใดบ้าง อยากสุขภาพดี ต้องหมั่นสังเกตุ และเลือกซื้อวัตถุดิบเพื่อสุขภาพทีดี ซึ่งวันนี้ lottosod เราก็มีข้อมูล เกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเลือกซื้อน้ำมัน มาใช้ในการประกอบอาหาร เพราะบางชนิดไม่ทนความร้อน เมื่อน้ำมาใช้ประกอบอาหารก็อาจทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระได้

เลือกใช้น้ำมันทำอาหาร วิธีเลือกน้ำมันประกอบการทำอาหาร

เลือกใช้น้ำมันทำอาหาร น้ำมันชนิดไหนเหมาะกับอาหารประเภทใดบ้าง
ไขมันดี

วิธีเลือกใช้น้ำมันประกอบอาหาร

ใครจะรู้ว่าน้ำมันที่เราใช้ทำอาหาร ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หากเลือกใช้น้ำมันถูกชนิด จะทอด จะผัดควรเลือกใช้มันมันอะไร วันนี้ เว็บหวยสด เราจะมาเจาะลึกเลือกน้ำมัน รู้ประโยชน์ของน้ำมันแต่ละชนิดให้มากขึ้น เพราะบางชนิดก็เหมาะที่จะนำมาใช่ทำสลัด น้ำมันบางชนิดนำมาใช้ทำอาหารแล้วลดความเสี่ยงโรคหัวใจนั่นเอง

กรดไขมันในน้ำมัน

น้ำมันแต่ละชนิดมีอัตราส่วนที่แตกต่างกัน โดยในน้ำมันนั้นจะมีทั้งกรดไขมันอิ่มตัว กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้

  • กรดไขมันอิ่มตัว เมื่อเรากินเข้าไปตัวกรดไขมันอิ่มตัวจะเปลี่ยนเป็นไขมันเลว ซึ่งไขมันเลวเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
  • กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว เมื่อเรากินเข้าไปกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว จะเปลี่ยนเป็นไขมันดี ซึ่งเมื่อเรามีไขมันดีตัวไขมันตัวนี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจนั่นเอง
  • กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน เมื่อกินเข้าไปกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนจะเปลี่ยนเป็นไขมันดี และไขมันตัวนี้มีข้อดีคือช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้เช่นเดียวกับเชิงเดี่ยว

ระดับกรดไขมันของน้ำมันแต่ละชนิด

เลือกใช้น้ำมันทำอาหาร น้ำมันชนิดไหนเหมาะกับอาหารประเภทใดบ้าง
ระดับกรดไขมันแต่ละชนิด

น้ำมัน

น้ำมันถั่วเหลือง

มีไขมันอิ่มตัวต่ำ ไขมันไม่อิ่มตัวสูง ทำให้มีไขมันดีในร่างกาย แต่การนำมาประกอบอาหารนั้นไม่ควรใช้ในการทำอาหารประเภมที่ใช้ความร้อนสูง เพราะจะทำให้เกิอนุมูลอิสระ

วิธีการใช้ที่เหมาะกับการประกอบอาหาร

  • ใช้ทำน้ำสลัด
  • ใช้ผัด

น้ำมันดอกทานตะวัน

มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนสูง ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือด

วิธีการใช้ที่เหมาะกับการประกอบอาหาร

  • ใช้ทำน้ำสลัด
  • ใช้ผัด

น้ำมันหมู

มีไขมันอิ่มตัวสูง หากกินมากจะทำให้มีไขมันเลวในร่างกายสูง ซึ่งเสี่ยงต่อกานเกิดโรค

วิธีการใช้ที่เหมาะกับการประกอบอาหาร

  • ใช้ผัด
  • ใช้ทอด

น้ำมันปาล์ม

ทนความร้อนได้ดี เหมาะอย่ามากในการทำมาใช้ทอดอาหาร จะทำให้อาหารหรอบ อร่อย และไม่เหม็นหืน

วิธีการใช้ที่เหมาะกับการประกอบอาหาร

  • ใช้ผัด
  • ใช้ทอด

น้ำมันมะพร้าว

มีไขมันอิ่มตัวสูงมาก แต่ยังคงเป็นที่ถกเถียวกันอยู่ระหว่างนักวิชาการ ซึ่งมีการวิจัยมาแล้วว่าเป็นไขมันอิ่มตัวชนิดพิเศษที่ดีต่อสุขภาพ

วิธีการใช้ที่เหมาะกับการประกอบอาหาร

  • ใช้ผัด
  • ใช้ทอด
เลือกใช้น้ำมันทำอาหาร น้ำมันชนิดไหนเหมาะกับอาหารประเภทใดบ้าง
น้ำมันมะกอก ประโยชน์

น้ำมันรำข้าว

เป็นน้ำมันที่มีกรดไขมันทั้ง 3 ชนิดในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน

วิธีการใช้ที่เหมาะกับการประกอบอาหาร

  • ใช้ทำน้ำสลัด
  • ใช้ผัด
  • ใช้ทอด

น้ำมันคาโนล่า

เป็นน้ำมันที่มีสัดส่วนของกรดไขมันที่ดีอยู่เยอะ และยังมีโอเมก้า 3 ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลอีกด้วย

วิธีการใช้ที่เหมาะกับการประกอบอาหาร

  • ใช้ทำน้ำสลัด
  • ใช้ผัด
  • ใช้ทอด

น้ำมันมะกอกสกัดเย็น

การใช้กระบวนการสลัดเย็น จะช่วยให้น้ำมันชนิดนี้อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ และมีสานช่วยชะลอวัย แต่ไม่เหมาะการการมาใช้ประกอบอาหารที่ใช้ความร้อนสูง เพราะจะเกิดสานอนุมูลอิสระ

วิธีการใช้ที่เหมาะกับการประกอบอาหาร

  • ใช้ทำน้ำสลัด

น้ำมันผสม

น้ำมันผสมเป็นน้ำมันที่มีหลายสูตร คือนำข้อดีของน้ำมันแต่ละชนิดมาผสม สามารถเลือกให้ตรงกับการนำไปใช้ได้

วิธีการใช้ที่เหมาะกับการประกอบอาหาร

  • ใช้ทำน้ำสลัด
  • ใช้ผัด
  • ใช้ทอด

เนย

หลาย ๆ คนชื่นชอบในกลิ่นของเนย จึงนำมาใช้ในการประกอบอาหาร แต่หากทานมากไปจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ

วิธีการใช้ที่เหมาะกับการประกอบอาหาร

  • ใช้ผัด
เลือกใช้น้ำมันทำอาหาร น้ำมันชนิดไหนเหมาะกับอาหารประเภทใดบ้าง
น้ำมันดอกทานตะวัน มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน

เคล็ดลับการเลือกซื้อน้ำมัน

ที่ขวดน้ำมันจะมีสัญลักษณ์ ‘หัวใจสีแดง’ ที่เป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายว่าน้ำมันขวดนั้น มีสัดส่วยของกรดไขมันที่ดีต่อสุขภาพ

เลือกใช้น้ำมันทำอาหาร น้ำมันชนิดไหนเหมาะกับอาหารประเภทใดบ้าง

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
ไฟโตนิวเทรียนท์ คืออะไร ผักผลไม้แต่ละสีมีประโยชน์ต่อร่างกายต่างกันอย่างไร

ไฟโตนิวเทรียนท์ คืออะไร ผักผลไม้แต่ละสีมีประโยชน์ต่อร่างกายต่างกันอย่างไร ผักและผลไม้แต่ละชนิดมีประโยชน์ต่อร่างการแตกต่างกันไป ซึ่งในพืช ผัก ผลไม้นั้น ก็จะมีสารที่มีประโยชน์ที่หลากหลาย โดยหนึ่งในสารนั้นเราจะเรียกว่า ไฟโตนิวเทรียนท์ ซึ่งเจ้าสารตัวนี้ก็จะมีประโยชน์ที่แตกต่างกันแยกย่อยไปอีก ซึ่ง หวยสด แบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่ม วันนี้ หวยสด จะชวนมาเจาะข้อมูลเกร็ดความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ ให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้ทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น

ไฟโตนิวเทรียนท์ คืออะไร ความแตกต่างของผลไม้แต่ละสี

ไฟโตนิวเทรียนท์ คืออะไร ผักผลไม้แต่ละสีมีประโยชน์ต่อร่างกายต่างกันอย่างไร
พืชผักสีเขียว

ไฟโตนิวเทรียนท์

ไฟโตนิวเทรียนท์ เป็นสารชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในพืช โดยพืชจะสร้างสารชนิดนี้ขึ้นเองเพื่อใช้ในการดำรงชีวิตของมัน เช่นใช้ไล่ศัตรูพืช ทำให้พืชแข็งแรง ใช้สังเคราะห์แสง ซึ่งไฟโตนิวเทรียนท์นั้นมีด้วยกันหลายชนิดมาก ๆ ซึ่งจะแบ่งกันง่าย ๆ ตามสีของผัก ผลไม้แต่ละชนิด โดยแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม คือ สีแดง สีส้ม สีเขียว สีขาว และสีม่วง ซึ่งแต่ละชนิดมีการวิจัยมาแล้วว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายของคนเราแตกต่างกันไป

ไฟโตนิวเทรียนท์ คืออะไร ผักผลไม้แต่ละสีมีประโยชน์ต่อร่างกายต่างกันอย่างไร
ไลโคปีน ช่วยอะไร

สีแดง

กลุ่มผัก ผลไม้ที่มีสีแดง เรียกว่าสารไลโคปีน พืชจะสร้างสารชนิดนี้ขึ้นมาเพื่อดึงดูดสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหาร ซึ่งเมื่อสัตว์นั้น ๆ เข้ามากินแล้วก็จะมีการกินพืชชนิดอื่นต่อ ๆ ไปเรื่อย ๆ จึงทำให้เกิดการขยายพันธุ์ของพืชนั่นเอง แต่เมื่อคนมีการกินผัก ผลไม้ที่มีสารไลโคปีนนี้เข้าไป สารตัวนี้จะเข้าไปช่วยป้องกันมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก และช่วยต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

สีส้ม

กลุ่มผัก ผลไม้ที่มีสีส้ม เรียกว่าสารเบต้า แคโรทีน หรือ แคโรทีนอยด์ พืชจะสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสง ซึ่งสารเบต้า แคโรทีนนี้จะช่วยในการบำรุงสายตา และช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ดียิ่งขึ้น

ไฟโตนิวเทรียนท์ คืออะไร ผักผลไม้แต่ละสีมีประโยชน์ต่อร่างกายต่างกันอย่างไร
สารเบต้า แคโรทีน หรือ แคโรทีนอยด์

สีเขียว

กลุ่มผัก ผลไม้ที่มีสีเขียว เรียกว่าสารลูทีน พืชจะสร้างสารลูทีนขึ้นมาเพื่อช่วยต้านอนุมูลอิสระในตัวของพืชเอง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเรากินผัก ผลไม้ที่มีสารลูทีนนี้ก็จะช่วยต้านสารอนุมูลอิสระเช่นกัน

ไฟโตนิวเทรียนท์ คืออะไร ผักผลไม้แต่ละสีมีประโยชน์ต่อร่างกายต่างกันอย่างไร
ผัก ผลไม้ ไฟโตนิวเทรียนท์

สีขาว

กลุ่มผัก ผลไม้ที่มีสีขาว เรียกว่าสารอัลลิซิน พืชจะมีการสร้างสารอัลลิซินขึ้นมาเพื่อป้องกันพวกแมลง ศัตรูพืชทั้งหลาย ไม่ให้เข้ามากิน หรือทำลายตัวมันเอง ซึ่งเมื่อคนเรากินผัก ผลไม้ที่มีสารอัลลิซินเข้าไปนั้น จะช่วยเข้าไปลดไขมันเลว (LDL) ในเลือดได้ดี

สีม่วง

กลุ่มผัก ผลไม้ที่มีสีม่วง เรียกว่าสารเรสเวอราทรอล พืชจะมีการสร้าง สารเรสเวอราทรอล ขึ้นมาเพื่อช่วยให้ตัวพืชนั้นแข็งแรงขึ้น ลดภาวะเครียดของพืชให้เติบโตได้ดีขึ้นต่อสภาวะแวดล้มต่าง ๆ เมื่อเรากินผัก ผลไม้ที่มี สารเรสเวอราทรอล ก็จะช่วยชะลอวัย ป้องกันโรคหัวใจ และอัลไซเมอร์ได้

ไฟโตนิวเทรียนท์ คืออะไร ผักผลไม้แต่ละสีมีประโยชน์ต่อร่างกายต่างกันอย่างไร
กะหล่ำม่วงมีประโยชน์อย่างไร

ไฟโตนิวเทรียนท์ คืออะไร ผักผลไม้แต่ละสีมีประโยชน์ต่อร่างกายต่างกันอย่างไร ผัก ผลไม้เป็นแหล่งรวมประโยชน์ ที่มีสารต่าง ๆ มากมายที่ให้คุณค่ากับร่างกายบ้างก็ช่วยส่งเสริมสุขภาพ บ้างก็ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ดังนั้นเราควรเลือกทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ไม่ทานจำเจ เพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมประโยชน์จากสารอาหารให้มากขึ้น

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail